กล้องถ่ายภาพ หรือ กล้องถ่ายรูป เป็นอุปกรณ์บันทึกแสงที่สะท้อนจากวัตถุผ่านเลนส์ของกล้อง เป็นการจำลองภาพทางแสงให้บันทึกลงบนวัสดุไวแสง (ฟิล์มถ่ายภาพประเภทต่าง ๆ และ/หรือตัวรับภาพ - Image Sensor) บันทึกเป็นภาพแฝงบนวัสดุไวแสง ก่อนนำไปผ่านกระบวนการล้างให้เป็นภาพถ่ายถาวร
ความหมายของการถ่ายภาพ มี 2 ประเด็น คือ
1. เชิงวิทยาศาสตร์ หมายถึง การทำปฏิกิริยาระหว่างวัสดุไวแสงกับแสง
2. เชิงศิลปะ หมายถึง การวาดภาพด้วยแสงและเงารวมทั้งการผสมสีเพื่อถ่ายทอดความหมาย ความรู้สึก อารมณ์ หรือทัศนคติ
สรุป : การถ่ายภาพ คือ การสร้างภาพเพื่อสื่อความหมาย ความรู้สึก อารมณ์ รวมทั้งทัศนคติ โดยใช้กระบวนการที่ปล่อยให้แสงสว่างสะท้อนมาจากวัตถุผ่านเข้าไปกระทบกับวัตถุไวแสง แล้วจึงนำวัตถุไวแสงไปผ่านกระบวนการสร้างภาพให้ปรากฏ
กล้องดิจิตอล D-SLR (Digital Single Lens Leflex)มักจะระบุทางยาวโฟกัสของเลนส์ไว้ 2 แบบ คือ ทางยาวโฟกัสที่แท้จริง กับทางยาวโฟกัสเทียบเท่ากล้อง 35มม. ที่ใช้ฟิล์มขนาด 135 ภาพ ขนาด 24x36 มิลลิเมตร เช่น เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 5-40 มม.
จะเทียบเท่าเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 25-200 มม. เป็นต้น ทางยาวโฟกัสของเลนส์สำหรับกล้องดิจิตอล SLR มักบอกทางยาวโฟกัส
เป็นค่าทางยาวโฟกัสเทียบเท่ากับกล้องฟิล์ม 135 และระบุตัวคูณทางยาวโฟกัส เช่น 1.7 เท่า เพื่อให้ทราบว่าเมื่อนำเลนส์ไปใช้กับกล้อง
ดิจิตอลจะมีขนาดทางยาวโฟกัสเท่าไร เช่น เลนส์ 50 มม. เมื่อนำไปใช้กับกล้องดิจิตอล 1.5 เท่า จะกลายเป็นเลนส์ขนาด 75 มม. เป็นต้น
จะเทียบเท่าเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 25-200 มม. เป็นต้น ทางยาวโฟกัสของเลนส์สำหรับกล้องดิจิตอล SLR มักบอกทางยาวโฟกัส
เป็นค่าทางยาวโฟกัสเทียบเท่ากับกล้องฟิล์ม 135 และระบุตัวคูณทางยาวโฟกัส เช่น 1.7 เท่า เพื่อให้ทราบว่าเมื่อนำเลนส์ไปใช้กับกล้อง
ดิจิตอลจะมีขนาดทางยาวโฟกัสเท่าไร เช่น เลนส์ 50 มม. เมื่อนำไปใช้กับกล้องดิจิตอล 1.5 เท่า จะกลายเป็นเลนส์ขนาด 75 มม. เป็นต้น
ระบบต่างๆ ของกล้องดิจิตอล
1. การกำหนดขนาดภาพ (Image Size) ขนาดภาพของกล้องดิจิตอล คือ จำนวน Pixels ในภาพที่บันทึกลงบนการ์ดเก็บข้อมูล ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบใหญ่ๆ คือ
1.1. จำนวน Pixels บน Image Sensorหมายถึงจำนวน Pixels ทั้งหมดที่อยู่บน Image Sensors
1.2. จำนวน Pixels ที่ถูกใช้งานในการบันทึกภาพ ซึ่งจะเรียกว่า “Effective Pixels” จำนวน EffectivePixels จะน้อยกว่าจำนวน Pixels ทั้งหมดบน
Image Sensor บางครั้งเราเรียกว่า “Optical Resolution”
1.3. จำนวน Pixels ที่บันทึกลงบนภาพ มักเรียกว่า “Recording Pixels” หรือ “Output Pixels” เป็นจำนวน Pixels จริงที่จะถูกบันทึกลงบนการ์ดเก็บข้อมูล
โดยจะมีจำนวนใกล้เคียงกับ Effective Pixels แต่กล้องบางตัวอาจจะมี Recording Pixels มากกว่า Effective Pixels ถึง 1.5 หรือ 2 เท่า ซึ่งจำนวน Pixels ที่เพิ่มขึ้นมานั้นจะได้จากการจำลองข้อมูลจาก Effective Pixels ขึ้นมาเพื่อให้ภาพมีจำนวน Pixels มากขึ้น แต่คุณภาพโดยรวมจะไม่เพิ่มขึ้น
1. การกำหนดขนาดภาพ (Image Size) ขนาดภาพของกล้องดิจิตอล คือ จำนวน Pixels ในภาพที่บันทึกลงบนการ์ดเก็บข้อมูล ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบใหญ่ๆ คือ
1.1. จำนวน Pixels บน Image Sensorหมายถึงจำนวน Pixels ทั้งหมดที่อยู่บน Image Sensors
1.2. จำนวน Pixels ที่ถูกใช้งานในการบันทึกภาพ ซึ่งจะเรียกว่า “Effective Pixels” จำนวน EffectivePixels จะน้อยกว่าจำนวน Pixels ทั้งหมดบน
Image Sensor บางครั้งเราเรียกว่า “Optical Resolution”
1.3. จำนวน Pixels ที่บันทึกลงบนภาพ มักเรียกว่า “Recording Pixels” หรือ “Output Pixels” เป็นจำนวน Pixels จริงที่จะถูกบันทึกลงบนการ์ดเก็บข้อมูล
โดยจะมีจำนวนใกล้เคียงกับ Effective Pixels แต่กล้องบางตัวอาจจะมี Recording Pixels มากกว่า Effective Pixels ถึง 1.5 หรือ 2 เท่า ซึ่งจำนวน Pixels ที่เพิ่มขึ้นมานั้นจะได้จากการจำลองข้อมูลจาก Effective Pixels ขึ้นมาเพื่อให้ภาพมีจำนวน Pixels มากขึ้น แต่คุณภาพโดยรวมจะไม่เพิ่มขึ้น
การเลือกซื้อ
การเลือกซื้อกล้องดิจิตอลหรือการเลือกขนาดความละเอียดของภาพมาใช้งาน จะพิจารณาจากจำนวน Effective Pixels โดยกล้องที่มี
จำนวน Effective Pixels มากมีแนวโน้มว่าจะมีคุณภาพดีกว่ากล้องที่มีจำนวน Effective Pixels น้อย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของ Image Sersor ขนาด Photo detector ความลึกสี ระบบประมวลผล เลนส์ และส่วนประกอบอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่จะเลือกจำนวน Pixels ในการถ่ายภาพได้หลายค่า เช่น กล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล อาจจะเลือกถ่ายภาพได้ที่ 5 ล้านพิกเซล,
3 ล้านพิกเซล, 1 ล้านพิกเซล และ 7 แสนพิกเซล โดยทั่วไปเราสามารถเข้าไปเลือกความละเอียดของภาพได้โดยการเข้าไปที่ Menu (หรือ Setting) แล้วเข้าไปที่ Image Size (หรือ Quality) จะปรากฏเมนูในการตั้งความละเอียดของภาพขึ้น ปัจจุบันกล้องดิจิตอลมีจำนวนพิกเซลที่สูงมากๆ เช่น 12 ล้าน 14 ล้าน จนถึง 24 ล้านพิกเซล
โดยทั่วไปภาพที่มีจำนวน Pixels มาก จะสามารถนำไปขยายภาพขนาดใหญ่ได้ดีกว่าภาพที่มีจำนวน Pixels น้อยโดยให้ความละเอียดและความคมชัด
ที่ดีกว่า ภาพแตกเป็นสี่เหลี่ยมได้ยากกว่า แต่จำนวน Pixels ที่มากกว่าต้องใช้เนื้อที่ของหน่วยความจำในการเก็บข้อมูลมากกว่าสิ้นเปลืองพลังงานในการ ประมวลผลมากกว่า กล้องทำงานช้ากว่า ทั้งการเก็บข้อมูล
และการเรียกดูภาพบนการ์ดเก็บข้อมูลการตั้งความละเอียดไว้สูงสุดอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการบันทึกภาพด้วยกล้องดิจิตอล เรามีวิธีการในการเลือก
ความละเอียดของภาพโดยพิจารณาจากการนำภาพไปใช้งาน
1.1 ถ้าต้องการถ่ายภาพเพื่อส่ง E-Mail หรือใช้ทำ Presentation ในคอมพิวเตอร์ ความละเอียด 1 ล้านพิกเซลถือว่าเพียงพอ
1.2 ต้องการไปใช้งานพิมพ์ งานอัดขยายภาพด้วยเครื่อง Printer คุณภาพสูง (Photo Quality) ควรดูว่าจะขยายภาพขนาดเท่าไร จากนั้นเอาขนาดภาพคูณด้วย 300 จะได้ขนาดความละเอียดภาพที่ควรจะตั้ง เช่น ขยายภาพขนาด 4x6 ควรตั้งที่ความละเอียด 4x300, 6x300= 1200x1800 Pixels = 2.16 ล้านพิกเซล ถ้าอัตราขยายภาพสูงมากๆ แต่กล้องไม่สามารถตั้งความละเอียดตามที่ต้องการได้ ก็ควรตั้งความละเอียดไว้ที่ สูงสุดเท่าที่กล้องจะสามารถทำได้ ซึ่งภาพที่ได้อาจจะแตกและมีคุณภาพไม่ดีนัก(เมื่อมองในระยะใกล้มากๆ)
1.3 ใช้งานพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์แบบ Inkjet ให้ใช้ขนาดภาพที่ต้องการใช้งานคูณด้วย 150 แต่ถ้าเป็นเครื่อง Inkjet ที่มีความละเอียดสูงมากๆ ต้องคูณด้วย 300
จำนวน Effective Pixels มากมีแนวโน้มว่าจะมีคุณภาพดีกว่ากล้องที่มีจำนวน Effective Pixels น้อย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของ Image Sersor ขนาด Photo detector ความลึกสี ระบบประมวลผล เลนส์ และส่วนประกอบอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่จะเลือกจำนวน Pixels ในการถ่ายภาพได้หลายค่า เช่น กล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล อาจจะเลือกถ่ายภาพได้ที่ 5 ล้านพิกเซล,
3 ล้านพิกเซล, 1 ล้านพิกเซล และ 7 แสนพิกเซล โดยทั่วไปเราสามารถเข้าไปเลือกความละเอียดของภาพได้โดยการเข้าไปที่ Menu (หรือ Setting) แล้วเข้าไปที่ Image Size (หรือ Quality) จะปรากฏเมนูในการตั้งความละเอียดของภาพขึ้น ปัจจุบันกล้องดิจิตอลมีจำนวนพิกเซลที่สูงมากๆ เช่น 12 ล้าน 14 ล้าน จนถึง 24 ล้านพิกเซล
โดยทั่วไปภาพที่มีจำนวน Pixels มาก จะสามารถนำไปขยายภาพขนาดใหญ่ได้ดีกว่าภาพที่มีจำนวน Pixels น้อยโดยให้ความละเอียดและความคมชัด
ที่ดีกว่า ภาพแตกเป็นสี่เหลี่ยมได้ยากกว่า แต่จำนวน Pixels ที่มากกว่าต้องใช้เนื้อที่ของหน่วยความจำในการเก็บข้อมูลมากกว่าสิ้นเปลืองพลังงานในการ ประมวลผลมากกว่า กล้องทำงานช้ากว่า ทั้งการเก็บข้อมูล
และการเรียกดูภาพบนการ์ดเก็บข้อมูลการตั้งความละเอียดไว้สูงสุดอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการบันทึกภาพด้วยกล้องดิจิตอล เรามีวิธีการในการเลือก
ความละเอียดของภาพโดยพิจารณาจากการนำภาพไปใช้งาน
1.1 ถ้าต้องการถ่ายภาพเพื่อส่ง E-Mail หรือใช้ทำ Presentation ในคอมพิวเตอร์ ความละเอียด 1 ล้านพิกเซลถือว่าเพียงพอ
1.2 ต้องการไปใช้งานพิมพ์ งานอัดขยายภาพด้วยเครื่อง Printer คุณภาพสูง (Photo Quality) ควรดูว่าจะขยายภาพขนาดเท่าไร จากนั้นเอาขนาดภาพคูณด้วย 300 จะได้ขนาดความละเอียดภาพที่ควรจะตั้ง เช่น ขยายภาพขนาด 4x6 ควรตั้งที่ความละเอียด 4x300, 6x300= 1200x1800 Pixels = 2.16 ล้านพิกเซล ถ้าอัตราขยายภาพสูงมากๆ แต่กล้องไม่สามารถตั้งความละเอียดตามที่ต้องการได้ ก็ควรตั้งความละเอียดไว้ที่ สูงสุดเท่าที่กล้องจะสามารถทำได้ ซึ่งภาพที่ได้อาจจะแตกและมีคุณภาพไม่ดีนัก(เมื่อมองในระยะใกล้มากๆ)
1.3 ใช้งานพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์แบบ Inkjet ให้ใช้ขนาดภาพที่ต้องการใช้งานคูณด้วย 150 แต่ถ้าเป็นเครื่อง Inkjet ที่มีความละเอียดสูงมากๆ ต้องคูณด้วย 300

memory
Memory (หน่วยความจำ) เป็นอุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ ที่ใช้เก็บคำสั่ง และข้อมูลที่ไมโครเซสเซอร์ สามารถเข้าถึงได้เร็ว เมื่อคอมพิวเตอร์ อยู่ในการทำงานปกติ หน่วยความจำจะเก็บส่วนใหญ่ของระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมประยุกต์บางส่วนหรือทั้งหมด และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน หน่วยความจำมักจะใช้ ในความหมายเดียวกับหน่วยความจำชั่วคราว หน่วยความจำชนิดนี้ ตั้งอยู่บนไมโครซิปหนึ่ง หรือมากกว่า ใกล้กับไมโครโพรเซสเซอร์ในคอมพิวเตอร์ การมีขนาด RAM ยิ่งมากจะช่วยลดความถี่ของคอมพิวเตอร์ ในการเข้าถึงคำสั่ง และข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เวลามาก บางครั้งหน่วยความจำได้รับการแยก จากการเป็นที่เก็บ หรือตัวกลางทางกายภาคที่ใช้เก็บข้อมูล จำนวนมากที่มากกว่า RAM และอาจจะไม่ต้องการในเวลานั้น อุปกรณ์การเก็บรวมถึงฮาร์ดดิสก์, ฟล๊อปปี้ดิสก์, CD-ROM และระบบเทปสำรองข้อมูล คำว่า auxiliary storage, auxiliary memory และ secondary memory ใช้สำหรับที่เก็บข้อมูลประเภทนี้
หน่วยความจำอีกชนิดที่เข้าถึงได้เร็ว คือ read-only-memory (ROM), programmable ROM และ erasable programmable ROM หน่วยความจำเหล่านี้ใช้เก็บโปรแกรมพิเศษและข้อมูล เช่น basic input/output system (BIOS) ซึ่งคอมพิวเตอร์ต้องการตลอดเวลา
การเลือกซื้อ
การเลือกซื้อหน่วยความจำจากตัวเลือกมากมายตามท้องตลาด ควรเลือกจาก คุณภาพ ความคุ้มค่า บริการ และการรับประกันที่ดี โดยทั้งนี้สามารถแยกแยะได้เป็นประเด็นหลัก ๆ ได้ ดังนี้
คุณภาพ
หน่วยความจำทุกแบบที่จะซื้อควรถูกผ่านการเทสภายใต้อุณหภูมิ Voltage และการใช้งานจริงเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่สูงสุด เพื่อที่จะได้หน่วยความจำที่มีคุณภาพสูงสุดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีที่สุดจากหน่วยความจำ
ความน่าเชื่อถือ
ควรซื้อหน่วยความจำที่ได้รับการรับรองจากบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเช่น Compaq, Dell, Apple หรือ IBM เป็นต้น จึงจะเชื่อมั่นได้ว่าหน่วยความจำของจะพร้อมไปด้วยประสิทธิภาพในการใช้งานเช่นเดียวกันกับชิ้นส่วนที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของบริษัทใหญ่ ๆ ทั่วโลกแน่นอน
การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
ผู้จำหน่ายควรมีคนให้คำปรึกษาเรื่องการเพิ่มหน่วยความจำที่พร้อมไปด้วยความรู้และความสามารถเพื่อที่จะตอบปัญหาคาใจได้ทุกเรื่อง (ของหน่วยความจำ)
บริการและการรับประกัน
นอกจากนั้นควรมีหน่วยความจำเพื่อรองรับกับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการหน่วยความจำเฉพาะรุ่นให้ได้เลือกและสั่งซื้อได้ ควบคู่กับการรับประกันว่าหน่วยความจำจะรองรับกับระบบคอมพิวเตอร์อย่างแน่นอน แล้วยังมีรับประกันหน่วยความจำแบบ Lifetime Warranty และถ้าหน่วยความจำเข้ากับระบบไม่ได้ ก็ต้องยินดีคืนเงินอีกด้วย
คุณภาพ
หน่วยความจำทุกแบบที่จะซื้อควรถูกผ่านการเทสภายใต้อุณหภูมิ Voltage และการใช้งานจริงเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่สูงสุด เพื่อที่จะได้หน่วยความจำที่มีคุณภาพสูงสุดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีที่สุดจากหน่วยความจำ
ความน่าเชื่อถือ
ควรซื้อหน่วยความจำที่ได้รับการรับรองจากบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเช่น Compaq, Dell, Apple หรือ IBM เป็นต้น จึงจะเชื่อมั่นได้ว่าหน่วยความจำของจะพร้อมไปด้วยประสิทธิภาพในการใช้งานเช่นเดียวกันกับชิ้นส่วนที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของบริษัทใหญ่ ๆ ทั่วโลกแน่นอน
การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
ผู้จำหน่ายควรมีคนให้คำปรึกษาเรื่องการเพิ่มหน่วยความจำที่พร้อมไปด้วยความรู้และความสามารถเพื่อที่จะตอบปัญหาคาใจได้ทุกเรื่อง (ของหน่วยความจำ)
บริการและการรับประกัน
นอกจากนั้นควรมีหน่วยความจำเพื่อรองรับกับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการหน่วยความจำเฉพาะรุ่นให้ได้เลือกและสั่งซื้อได้ ควบคู่กับการรับประกันว่าหน่วยความจำจะรองรับกับระบบคอมพิวเตอร์อย่างแน่นอน แล้วยังมีรับประกันหน่วยความจำแบบ Lifetime Warranty และถ้าหน่วยความจำเข้ากับระบบไม่ได้ ก็ต้องยินดีคืนเงินอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น