วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ศัพท์คอมพิวเตอร์

บทที่ 5
                  คำศัพท์                                       คำอ่าน                                        คำแปล  
                1.Aluminum                                  อะ-ลู-มิ-นัม                                 อลูมิเนียม
                2.Cylinder                                     ซาย-แรน-เดอร์                          กระบอกสูบ
                3.Alloy                                         เอ-โล                                          โลหะผสม
                4.Seek Time                                 ชีก-ทาม                                       ขอเวลา
                5.Patter                                        เพล-เตล                                       เสียงกุกกัก
                6.Aluminum                                  อะ-ลู-มิ-นัม                                  อลูมิเนียม
                7.Hard Disk                                 ฮาร์ด-ดิสก์                                    ฮาร์ดดิสก์
                8.Sector                                        เซก-เตอร์                                     ภาค
                9.Random                                     แรน-ดอม                                     สุ่ม
                10.Format                                    ฟอ-แมต                                       จัดรูปแบบ

โมเด็มและการ์ดแสดงเสียง





การ์ดแสดงสัญญาณเสียง (Sound Card)
เป็นอุปรณ์สร้างและจัดการกับระบบเสียงทั้งหมดภายในเครื่ิองพีซี เช่น เล่นไฟล์เสียงในรูปแบบต่างๆ, เสียงดนตรีตามคำสั่งแบบ MIDI , บันทึกและแปลงเสียงลงเป็นไฟล์แบบดิจิตอล, ตลอดจนผสม (Mix) เสียงจากหลายๆแห่งที่มาเข้าด้วยกัน เป็นต้น



ส่วนประกอบของก
าร์ดเสียง

A*อินเตอร์เฟส เป็นส่วนที่เชื่อมต่อเข้ากับสล็อตบนเมนบอร์ด ปัจจุบันซาวด์การ์ดแทบทุกรุ่นจะใช้อินเตอร์เฟสที่เชื่อมต่อเข้ากับระบบบัสแบบ PCI แทบทั้งสิ้น
B*Synthesizer เป็นชิปตัวประมวลผลหลักที่ทำหน้าที่สร้างหรือสังเคราะห์สัญญาณเสียงขึ้นมาตามคำสั่งที่ได้รับ โดยใช้การสังเคราะห์แบบ FM หรือแบบ Wavetable
C*Digital I/O Connector เป็นช่องที่ใช้เชื่อมต่อกับการ์ด Digital I/O
D*AUX Connector เป็นช่างที่ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์จำพวกการ์ด TV Tuner หรือ MPEG2 Decoder เป็นต้น



E*Telephone Answering Device Connector เป็นช่องที่ใช้เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ Voice Modem เพื่อรับส่งและส่งสัญญาณเสียงกับโมเด็ม
F*Analog/Digital Out jack เป็นช่องที่ใช่เชื่อมต่อเข้ากับลำโพง Center และ Sub-woofer หรือใช้สัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยระบบดิจิตอล
G*Line In jack เป็นช่องที่ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกเเพื่อรับสัญญารเสียงเข้าสู้การ์ด เช่น เครื่องเล่นเทป และเครื่องเล่นมินิดิสก์ เป็นต้น
H*Microphone In jack เป็นช่องที่ใช้เสียบเข้ากับอุปกรณ์จำพวกไมโครโฟน เพื่อใช้ในการบันทึกเสียงหรือแปลงสัญาณเสียงไปเป็นไฟฟ้า (ลนาล็อก-สเตอริโอ)
I*Line Out jack เป็นช่องที่ใช้เชื่อมต่อเข้ากับชุดลำโพงแบบ 5.1 Channel โดยใช้เชื่อมต่อเข้ากับลำโพงคู่หลัง (ซ้าย-ขวา)
K*MID/Joystick Connector เป็นช่องที่ใช้เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ MIDI หรืออุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมการเล่นเกมเช่น Joystick และบังคับพวกพวงมาลัย เป็นต้น

รูปแบบของการ์ดเสียง

รูปแบบของการ์ดเสียงโดยทั่วไปที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ มี 2 แบบคือ


  • แบบออนบอร์ด(Sound On Board) เป็นระบบเสียงตามมาตรฐาน AC'97 หรือ IntelHigh Definition Audio ที่อยู่ในรูปแบบของชิปเสียง ซึ้งถูกติดตั้งไว้บนเมนบอร์ดเพื่อให้พร้อมสำหรับการใช้งาน โดยไม่จำเป็นต้องหาการ์ดเสียงมาใส่
  • แบบตัวการ์ด(Sound Card) เป็นระบบเสียงที่คุณภาพเสียงดีกว่าแบบออนบอร์ด แต่จะต้องซื้อหามาใช้เอง โดยมากใช้เสียบลงในช่องสล็อตแบบ PCI บนเมนบอร์ด
แถมข้อมูลให้อีกนิดนึงครับ!!

มาตรฐาน AC'97 Intel High Definition Audio





AC'97 (Audio Codec '97) เป็ฯมาตรฐานด้านระบบเสียงของซีพียูที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยอินเทลในปี 1997 ส่วน Intel High Definition Audio (HD Audio) นั้น เป็นมาตรฐานใหม่ที่ถูกพฒนาขึ้นมาในปี 2004 ซึ้งให้คุณภาพของเสียงระดับ High Definition ในระบบ 5.1-7.1 Channel และได้รวมเอาความสามารถในการถอดรหัสเสียงรอบทิศทางในระบบ Dolby Digital เข้าไว้ในตัวด้วย โดย HD Audio ที่กล่าวถึงนี้จะมาพร้อมกับชิปเซ็ตในตระกูล i9xx Express ต่างของอินเทล

โมเด็ม (Modem)
เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร และรับส่งข้อมูลกันบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่อง โอยอาศัยตัวกลางจำพวกสายโทรศัพท์และสาย Fiber Optic ในการส่งผ่านข้อมูล หลักการทำงานโดยคร่าวของโมเด็มก็คือ เปลี่ยนข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบของสัญญาณดิจิตอลให้เป็นสัญญาณเสียงเพื่อให้สามารถส่งผ่านไปตามสายโทรศัพท์ได้ และในทางกลับกันก็รับเอาสัญญาณเสียงที่ถูกส่งผ่านมาตามสายโทรศัพท์จากโมเด็มอีกฟากหนึ่งมาแปลงกลับให้เป็นข้อมูลในรูปแบบของสัญญาณดิจิตอลแบบเดิม ปัจจุบันโมเด็มที่มีวางขายและใช้งานกันโดยทั่วไป ถ่าแบ่งออกตามเทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลจะแบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ

Dial-Up Modem (56K Dial-UP)

เป็นโมเด็มแบบอนาล็อคที่ใช้ในการรับส่งสัญญาณผ่านระบบโทรศัพท์แบบธรรดา เวลาเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในแต่ละครั้งจำเป็นจะต้องหมุนหมายเลขโทรศัพท์ไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เร็ต (ISP) ด้วย มาตราฐานล่าสุดที่ใช้กันในปัจจุบัน คือ V.92 ซึ่งให้ Bit Rate หรืออัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดที่ 56/33.6 Kbps (รับข้อมูลขาลงจากอินเทอร์เน็ต หรือ Download ที่ความเร็ว 56 Kbps และส่งข้อมูล ขาขึ้น Upload ที่ความเร็ว 33.6 Kbps)



ADSL Modem (High-Speed Internet)
เป็นโมเด็มแบบดิจิตอลที่ใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารและรับส่งข้อมูลกันด้วยระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนคู่สายโทรศัพท์แบบะรรดา โดยเลือกใช่ย่านความถี่ที่ไม่มีในการใช้งานอินเทอร์น็ต (โมเด็มแบบ Dial-Up ในระหว่างใช้งานอินเทอร์เน็ตจะำม่สามารถใช้โทรศัพท์ปกติไปพร้อมๆกันได้) อีกทั้งเวลาเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในแต่ละครั่ง ก็ไม่จำเป็นต้องหมุนหมายเลขโทรศัพท์เหมือนกับ 56k Dial-Up อีกด้วย ปัจจุบันเทคโนโยยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Hing-Speed Internet) และโมเด็มของ ADSL นี้กำลังเป็นที่นิยมและได้กลายเป็นมาตรฐานที่ใช้งานกันโดยทั่วไป ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้ความเร็วได้ตามต้องการจากผ๔้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เช่น 256/128, 512/256 และ 1024/512 Kbps เป็นต้น โดยแต่ละความเร็วจะมีอัตราค่าบริการแต่กต่างกันไปสำหรับอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดด้วยระบบ ADSL ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 8192/1024 Kbps หรือก็คือ รับส่งข้อมูลขาลงจาก ISP (Download) ด้วยความเร็วสูงสุด 16 Mbps และส่งข้อมูลขาขึ้นไปหา ISP (Uplpad) ด้วยความเร็วสูงสุด 1 Mbps
รูปแบบของโมเด็ม


สามารถแบ่งออกตามลักษณะในการติดตั้งได้ดังนี้

  • แบบติดตั้งภายใน (Internal Modem) มักเป็นแบบการ์ด PCI ที่ใช้เสียบลงบนเมนบอร์ดข้อดีของโมเด็มแบบนี้คือ ไม่มีสายต่อรุงรังและไม่ต้องใช้ตัวอะแดปเตอร์ (Adapter) คอยจ่ายไฟเลี้ยงให้
  • แบบติดตั้งถายนอก (External Modem) เป็นแบบตัวเตรื่องขนาดเล็กวางตั้งไว้อยู่ภายนอกตัวเครื่อง ในการเชื่อมต่อถ้าเป็นโมเด็ม 56k จะมีทั้งแบบที่ใช้กับพอร์ตอนุกรมและพอร์ต USB แต่ถ้าเป็น โมเด็ม ADSL จะมีทั้งแบบที่ใช้กับช่างต่อ RJ-45 ของการ์ด LAN และพอร์ต USB ส่วนสายสัญญารโทรศัพท์จะใช้เสียบเข้ากับช่องต่อ RJ-11 ของอุปกรณ์แยกสัญญาร (Splitter) ข้อดีของโมเด็มแบบนี้คือ ติดตั้งได้ง่ายและมีไฟบอกสถานะตลอดเวลา

แถมความรู้ให้อีกนิด
Splitter หรือ POTS Splitter


กวนสัญญารของเครื่องโทรศัพท์ธรรดาที่ต่อพ่วงอยู่ ทำให้สามารถเล่นอินเทอร์เน็ตในระบบ ADSL ไปพร้อมๆกับการใช้โทรศัพท์บ้านได้ตามปกติ



โมเด็ม (Modem)
                เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้  ปัจจุบันโมเด็มเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อคอมพิวเตอร์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออินเตอร์เน็ตมีการขยายตัวมากขึ้นทำให้มีการสื่อสารผ่านโมเด็มมากขึ้น

หน้าที่หลักของโมเด็ม

                หน้าที่หลักของโมเด็ม  คือ เป็นตัวกลางที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นสัญญาณแบบดิจิตอล (Digital  Signalไปเป็นสัญญาณอะนาล็อก (Analog Signal)  และทำการส่งสัญญาณที่ได้ไปตามสายโทรศัพท์  ส่วนโมเด็มที่ต่ออยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะรับข้อมูลก็จะทำการแปลงสัญญาณแบบอะนาล็อกให้เป็นสัญญาณแบบดิจิตอลและส่งต่อให้กับคอมพิวเตอร์ต่อไป
                โมเด็มที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันมีอยู่ ชนิดคือ โมเด็มแบบติดตั้งภายใน (Internal Modem)  และโมเด็มแบบติดตั้งภายนอก (External Modem)

ข้อดีของโมเด็มแบบติดตั้งภายใน

1.       มีราคาถูก
2.       ไม่เปลืองเนื้อที่เนื่องจากติดตั้งอยู่ในเคส
3.       ไม่ต้องใช้พอร์ตอนุกรม
4.       มีชิป UART ที่ทำหน้าที่ควบคุมการรับข้อมูลระหว่างโมเด็มกับเครื่องคอมพิวเตอร์ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีความผิดพลาดน้อย

ข้อเสียของโมเด็มแบบติดตั้งภายใน

1.       ไม่มีสัญญาณไฟบอกสถานะการทำงาน เช่น  สัญญาณแสดงการรับหรือส่งข้อมูล
2.       ติดตั้งยากเพราะต้องเปิดฝาเครื่องออกก่อน
3.       เคลื่อนย้ายไม่สะดวก เช่น ในกรณีที่ต้องการนำโมเด็มไปใช้งานที่เครื่องอื่นก็ต้องเปิดฝาเครื่องออกก่อน
4.       ต้องการไดรเวอร์พิเศษของโมเด็มเพื่อที่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ข้อดีของโมเด็มแบบติดตั้งภายนอก

1.       มีสัญญาณไฟบอกสถานะการทำงาน
2.       ติดตั้งได้ง่าย
3.       เคลื่อนย้ายสะดวก

ข้อเสียของโมเด็มแบบติดตั้งภายนอก

1.       เปลื่องเนื้อที่ในการจัดวางโมเด็ม
2.       ต้องใช้พอร์ตอนุกรม
3.       มีราคาแพง

ปัจจัยในการเลือกซื้อโมเด็ม

                ควรเลือดซื้อโมเด็มที่มีความเร็ว  56 Kbps  และรับรองมาตรฐาน V.90 ถ้ามีงบประมาณน้อยก็สามารถเลือกโมเด็มแบบ Internal ซึ่งจะมีราคาถูกมากแต่จะยุ่งยากในการติดตั้ง



วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ศัพท์คอมพิวเตอร์

บทที่ 4
       คำศัพท์                                คำอ่าน                                        คำแปล
   1.volatine                                 โวลาไทน์                                  หน่วยความจำแบบโวลาไทน์
   2.memory stick                        เม็มโมรีสติก                              แท่งหน่วยความจำ
   3.smart drive                            สมารท์ไดรฟ์                             การ์ดแบบสมารท์ไดร์ฟ 
   4.static RAM                           สแตติกแรม                               หน่วยความจำใช้สถานะทางวงจรไฟฟ้า
   5.dynamic-RAM                      ไดนามิกส์แรม                           หน่วยความจำที่บรรจุลงหน่วยเล็กๆ
   6.fast page mode                      ฟาสเพจโหมด                           หน่วยความจำที่แบ่งเป็นแถว
   7.synchronous DRAM              ซิงโครนอส ดีอาเอเอ็ม             หน่วยความจำที่ใช้ระบบบัส
   8.double data rate                     ดับเบี้ล ดาต้า เร็ต                      หน่วยความจำภาคแสดงผล
   9.ram bus RDRAM                   แรมบัส-อาดีอาเอเอ็ม               ระบบเชื่อมต่อวงจรพิเศษ
   10.EDO                                    อีดีโอ                                        ใช้ในการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่เพนเทียม

ศัพท์คอมพิวเตอร์

บทที่ 3
          คำศัพท์                                  คำอ่าน                             คำแปล
  1.processor                                   โปรเซสเซอร์                     หน่วยประมวลผลกลาง
  2.control unit                                 คอนโทรยูนิต                     ส่วนควบคุม
  3.decode unit                                ดีคลอ ยูนิต                        หน่วยแปลคำสั่ง
  4.execution unit                              เอ็กคิว ยูนิต                       หน่วยที่ทำการประมวลผล
  5.registers                                      ริจิตเตอร์                           หน่วยความจำ
  6.perfetch unit                                เฟอเฟกยูนิต                      หน่วยเก็บคำสั่ง
  7.floating-point unit                        โฟรลิงค์-พอนต์ยูนิต          หน่วยคำนวณเกี่ยวกับตัวเลข
  8.ALU                                           เอแอลยู                             ส่วนปฏิบัติตามคำสั่งเปรียบเทียบ
  9.bus interface unit                          บัสอินเตอร์เฟส                 ส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์
  10.MMU                                        เอมเอมยู                          ส่วนควบคุมโพรเซสเซอร์
      

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ศัพท์คอมพิวเตอร์

บทที่ 1     คำศัพท์                       คำอ่าน                                                คำแปล
             1 computer                 คอมพิวเตอร์                              เครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์    
             2  analog computer     อนาล็อกคอมพิวเตอร์                เครื่องคำนวณที่ไม่ได้ใช้ค่าตัวเลข
             3 digital computer       ดิจิตอลคอมพิวเตอร์                  เครื่องคำนวณเกี่ยวกับตัวเลข 
             4 desktop computer    เดสท็อปคอมพิวเตอร์               คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต็ะ
             5 personal computer   เพอร์โซนอลคอมพิวเตอร์         คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 
             6 notebook computer  โน็ตบุ็กคอมพิวเตอร์                 คอมพิวเตอร์ชนิดพกพา
             7 palmtop computer     ปาล์มท็อปคอมพิวเตอร์          คอมพิวเตอร์สำหรับงานเฉพาะอย่าง
             8 mini computer            มินิคอมพิวเตอร์                      คอมพิวเตอร์ระบบเครื่อข่าย
             9 storage                      สตร็อกเก็ต                              หน่วยเก็บข้อมูล 
             10 output                      เอ็าพุท                                   แสดงผลลัพธ์

บบที่ 2       คำศัพท์                         คำอ่าน                                         คำแปล
             1 main board                       เมนบอร์ด                           แผนวงจรหลัก
             2 socket                              สล็อก                                ช่องเสียบอุปกรณ์เพิ่มเติม
             4 power supply                    ซ็อกเก็ต                             ช่องใส่ซีพียู
             3 slot                                   เพาเวอร์ซัพพลาย             อุปกรณ์ระบายอากาศ 
             5 chipsatz                             ชิปเซต                              อุปกรณ์ประมวลผล
             6 soundcard                         ซาวด์การ์ด                        การ์ดเสียง
             7 display card                        ดิสเพลการ์ด                 การ์ดแสดงผล                                          
             8 stromtecker                       สตรอมสติกเกอร์               ช่องเสียบสาย power
             9 pci-steckplatze                  พีซีไอ-สติกแพลน             ช่องเสียบการด์แบบ pci 
             10 isa-steckplatze                ไอเอสเอ-สติกแพลน         สล็อกสำหรับเสียบการด์แบบ isa

การ์ดแสดงผล

การ์ดแสดงผล  เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ทำหน้าทีในการประมวลผลสัญญาณของภาพเพื่อส่งต่อไปยังมอนิเตอร์  เพื่อแสดงภาพ  สำหรับการ์ดแสดงผลนี้เป็นจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่ต้องการภาพที่สมจริงรวมไปถึงคนที่ต้องการเล่นเกมส์  และคนที่ชอบตัดต่อ VDO ส่วนใหญ่แล้ว  ก็จะติดตั้งมาพร้อมเมนบอร์ด  แต่คนที่ต้องการจะมีการ์ดแสดงผลแยกตางหากก็สามารถ  เลือกที่ไม่มีติดตั้งก็ได้

ประเภทของ การ์ดแสดงผล
1.AGP(Accelerated Graphics Port) เป็นพอร์ตรุ่นเดิมในปัจจุบันได้ล้าสมัยไปเพราะมีความเร็วที่ต่ำ
ลักศณะของ การ์ดแสดงผล แบบ AGV

2.PCI Express
เป็นพอร์ตการเชื่อมต่อใหม่ล่าสุด  ซึ่งมีความเร็วมากกว่า AGP
ลักศณะของ การ์ดแสดงผล แบบ PCI Express


องค์ประกอบของการ์ดแสดงผล
อุปกรณ์ที่ทำงานหลักๆ แล้ว ก็ค่อนข้างจะเป็นมาตรฐาน ซึ่งจะประกอบไปด้วย ชิปประมวลผลกราฟิก, หน่วยความจำ, อินเตอร์เฟสในการเชื่อมต่อ, RAMDAC ที่เหลือก็จะเป็นส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับตัวการ์ดแสดงผลนั่นเอง สำหรับหน้าที่ของอุปกรณ์แต่ละตัว เช่น ชิปประมวลผลกราฟิกจะเปรียบเทียบได้กับ การทำงานของซีพียู โดยทำงานร่วมกับไดรเวอร์ของตัวเอง ส่วนหน่วยความจำบนการ์แสดงผลนั้น จะทำหน้าที่ 2 อย่าง ด้วยกัน อย่างแรก คือ เป็นที่พักข้อมูลที่ตัวชิปประมวลผลกราฟิก จะใช้อ้างอิงอีกในครั้งต่อไป สำหรับอินเทอร์เฟซสำหรับการเชื่อมต่อ เดิมทีนั้น การ์ดแสดงผลปกติจะมีเพียงพอร์ตเชื่อมต่ออย่าง DB-15 (D-Sub) เท่านั้น แต่ปัจจุบันการ์ดแสดงผลในท้องตลาด มักจะมาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อหลากหลายชนิด เช่น AV/S-Video TV In/Out, DVI เหล่านี้ เป็นต้น และ RAMDAC (Random Access Memory Digital to Analog Converter) เป็นที่สำหรับแปลงสัญญาณดิจิตอลให้เป็นสัญญาณอะนาล็อกนั่นเอง



หน่วยความจำ



หน่วยความจำ คือ ส่วนของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นต่อการใช้งานและการประมวลผลของ คอมพิวเตอร์หน่วยความจำแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 
 1. หน่วยความจำหลัก หรือหน่วยความจำภายใน (Primary Memory, Internal Memory)   เป็นหน่วยความจำ ที่ใช้เก็บ  โปรแกรข้อมูล ผลลัพธ์ ไว้ภายในเครื่องมี 2 ชนิดคือ 
 

 Read Only Memory : ROM  เป็นหน่วยความจำที่บริษัทผู้ผลิตได้เขียนบันทึก ไว้อย่างถาวรแม้ทำการปิดเครื่องก็จะไม่ถูกลบไป เป็นหน่วยความจำที่คอมพิวเตอร์สามารถอ่านข้อมูลได้เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถบันทึกข้อมูลลงไปในหน่วยความจำชนิดนี้ได้

  Random Access Memory : RAM เป็นหน่วยความจำที่ใช้เก็บข้อมูลและโปรแกรมซึ่งสามารถเปลี่ยนแแปลง และเรียกใช้ได้ตลอดเวลาตราบเท่าที่เครื่องคอมพิวเตอร์ยังเปิดใช้งานอยู่ และจะถูกลบหายไปเมื่อเครื่องปิด                   
2.   หน่วยความจำสำรอง หรือหน่วยความจำภายนอก (Secondary Memory or External  Memory) เป็นหน่วยความจำที่มิได้ติดอยู่กับเครื่องตลอดเวลสามาถเคลื่อนย้ายไปมาได้ มีราคาถูกสามารถเก็บข้อมูลได้มาก ที่นิยมใช้ปัจจุบัน เป็นประเภทของ Diskette 3.5 นิ้ว (ความจุ 1.44 MB.), แผ่น Compact Disc: CD (ความจุ 650 MB.) ซึ่ง Compact Disc นี้กำลังเริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถเขียนและอ่านได้เป็นอย่างดี จึงสามารถทำงานได้เทียบกับหน่วยความจำหลักเลยทีเดียว

หน่วยความจำสำรองคือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการเก็บบันทึกข้อมูลและโปรแกรมต่างๆแบบถาวร ได้แก่ฮาร์ดดิสก์ ฟลอปปี้ดิสก์ แผ่นซีดีรอม ฯลฯโดยถ้าเป็นข้อมูลที่มีขนาดเล็กและต้องการเคลื่อนย้ายไฟล์ไปที่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ก็ใช้ฟลอปปี้ดิสก์แต่ถ้าเป็นข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากๆ ก็จะเก็บลงในฮาร์ดดิสก์ หรือแผ่นซีดีรอม ซึ่งข้อมูลที่เก็บในฟลอปปี้ดิสก์หรือฮาร์ดดิสก์เราสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้และบันทึกลงไปใหม่ได้ส่วนแผ่นซีดีรอมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ หน่วยความจำสำรอง คืออะไร ?
  •  ฟลอปปีดิสก์ (floppy disks) นิยมเรียกโดยทั่วไปว่า แผ่นดิสก์ หรือ ดิสก์เกตต์ เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองที่สามารถพกพาและเคลื่อนย้ายได้สะดวก แผ่นดิสก์รุ่นแรก ๆ จะมีขนาด 8 นิ้ว และ 5.25 นิ้วแต่ปัจจุบันนิยมใช้ขนาด 3.5 นิ้ว ซึ่งมีความจุ 1.44 MB แต่เดิมฟลอปปีดิสก์จะเรียกว่า ฟลอปปี ( floppies) เพราะดิสก์มีลักษณะที่บางและยืดหยุ่น แต่ปัจจุบันลักษณะของดิสก์ได้พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เป็นดิสก์ที่หุ้มด้วยแผ่นพลาสติกแข็งแต่เนื้อดิสก์ภายในยังคงอ่อนเหมือนเดิม จึงเรียกว่าฟลอปปี้ “ floppy disks”
  •  CD ( Compact Disk ) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ลักษณะหนึ่งที่สำคัญของ CD คือจะถูกอ่านด้วยเครื่องอ่าน CD (CD - Rom Drive) ที่มีความเร็วที่แตกต่างกันออกไป ความเร็วในการอ่านซีดี จะเขียนอยู่ในรูปของตัวคูณ ( x) เช่น เครื่องอ่านซีดี ขนาด 24 x , 32 x, 52 x เป็นต้น ปัจจุบันซีดีแต่ละแผ่น สามารถจุข้อมูลได้ประมาณ 700 MB ซีดี สามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ - CD - Rom (Compact Disk Read - Only Memory) มีลักษณะคล้ายกับซีดีเพลง หรือ ซีดีที่ขายกันอยู่ทั่วไป คำว่า read - only หมายถึง อ่านได้เพียงอย่างเดียว ผู้ใช้ไม่สามารถแก้ไขหรือลบข้อมูลในแผ่นซีดีได้ - CD - R (Compact Disk Recordable ) เป็น ซีดีที่สามารถเขียน บันทึก หรือ write ข้อมูลได้ครั้งเดียว และสามารถอ่านข้อมูลได้หลายครั้งแต่ไม่สามารถลบข้อมูลที่อยู่ใน CD - R ได้ - CD - RW (Compact Disk Rewriteable หรือ Erasable Optical Disk) ซีดีประเภทนี้คล้ายกับ CD – R ต่างกันที่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ คือ สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้หลายครั้ง “ Compact Disk” <- CD-Rom Drive CD-Rom ->
  •  DVD ( Digital Versatile Disk ) เป็นแผ่นข้อมูลแบบบันทึกด้วยแสง ( Optical DisK) ที่ใช้บันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ โดยให้คุณภาพของภาพและเสียงที่ดี ดีวีดีถูกพัฒนามาใช้แทนซีดีรอม โดยใช้แผ่นที่มีขนาดเดียวกัน ( เส้นผ่าศูนย์กลาง 12 เซนติเมตร ) แต่ว่าใช้การบันทึกข้อมูลที่แตกต่างกัน และความละเอียดในการบันทึกที่หนาแน่นกว่า เดิมทีดีวีดีมาจากชื่อย่อว่า digital video disc แต่ในภายหลังผู้ผลิตบางรายเห็นว่าควรเปลี่ยนชื่อเป็น Digital Versatile Disk ปัจจุบันตามคำนิยามอย่างเป็นทางการแล้ว DVD ไม่ได้ย่อมาจากชื่อเต็มแต่อย่างใด เครื่องเขียนแผ่นดีวีดี ( DVD Writer) คือ เครื่องสำหรับการบันทึกข้อมูลลงบนแผ่นดีวีดี ชนิดของแผ่นดีวีดีที่ใช้บันทึกนั้นมีอยู่ 6 ชนิด คือ 1.DVD-R 2. DVD+R 3.DVD-RW 4.DVD+RW 5.DVD-R DL 6.DVD+R DL 7.DVD-RAM ข้อดีของ DVD-RW และ DVD+RW คือ สามารถนำกลับมาบันทึกใหม่ ได้กว่า 100,000 ครั้ง แต่ดีวีดีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันนี้คือ DVD-R ในการบันทึก DVD แต่ละชนิดนั้นไม่สามารถใช้งานข้ามชนิดได้ คือไม่สามารถใช้งานข้ามไดร์ฟได้ เช่น DVD-RW ไม่สามารถใช้งานในเครื่องบันทึก DVD+RW ได้ ต้องเขียนกับเครื่องบันทึก DVD-RW เท่านั้นส่วนการอ่านข้อมูลใน DVD นั้น สามารถอ่านกับเครื่องไหนก็ได้ เช่น DVD+RW สามารถอ่านกับเครื่องเล่น DVD-RW ได้ ส่วน DVD-RAM เดี๋ยวนี้ไม่นิยมใช้แล้ว “ D igital V ersatile D isk”
  •  หน่วยความจำแบบแฟลช (flash memory) เป็นหน่วยความจำประเภทรอมที่เรียกว่า อีอีพร็อม ( Electrically Erasable Programmable Read Only Memory : EEPROM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำข้อดีของรอมและแรม มารวมกัน ทำให้หน่วยความจำชนิดนี้สามารถเก็บข้อมูล ในเหมือนฮาร์ดดิสก์คือ สามารถเขียนและลบข้อมูลได้ตาม ต้องการ และเก็บข้อมูลได้ แม้ไม่ได้ต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ หน่วยความจำชนิดนี้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวกมักใช้เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูล ในอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล เช่น แฟลชไดร์ฟ MP3 กล้องดิจิทัล กล้องวีดิทัศน์ที่เก็บข้อมูลแบบดิจิทัล มือถือ “ flash memory”
  •  ฮาร์ดดิสก์ ( Harddisk) มีลักษณะเป็นจานแม่เหล็กหลายแผ่นวางซ้อนกัน โดยอาจมีจำนวนแผ่น 3-11 แผ่น ซึ่งจะไม่เรียกว่าดิสก์ แต่จะเรียกว่าแพลตเตอร์ ( Platter) แทน ซึ่งแต่ละแพลตเตอร์จะสามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งสองด้าน เนื่องจากแพลตเตอร์ผลิตจากสารจำพวกโลหะหรือแก้วบางชนิด จึงไม่สามารถงอไปงอมาได้ เหมือนกับฟลอปปี้ดิสก์ ทำให้ต้องมีโลหะปิดไว้ทุกด้านเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน ฮาร์ดดิสก์จึงสามารถเก็บข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก แล้วแต่ความจุของแต่ละรุ่น เช่น ฮาร์ดดิสก์ ความจุ 120 GB, 320 GB, 500 GB เป็นต้น แต่ปัจจุบัน ฮาร์ดดิสก์ มีความจุถึง 2 TB นอกจากนี้ยังมีความรวดเร็วต่อการเรียกใช้งานสูง โดยปกติจะกำหนดให้ฮาร์ดดิสก์เป็นไดร์ฟ C: และ D: ข้อจำกัดของฮาร์ดดิสก์ คือ เคลื่อนย้ายไปเครื่องอื่นลำบาก ชำรุดง่ายหากโดนกระทบกระเทือน และมีราคาแพง “ Harddisk”